SF
BTS
Unloving
VHope
NC
“มึง..อย่าพึ่ง! ” โฮซอกเรียกสติตัวเองที่กำลังจะกระเจิงให้กลับมาเข้าที่เข้าทางทันที
เมื่อรู้สึกถึงความเป็นชายของอีกคนที่ดุนดันขึ้นมาจากเบื้องล่างผ่านเนื้อผ้าหนา โฮซอกรู้สึกว่าแทฮยองจะตอบสนองรุนแรงไป
ฝ่ามือใหญ่ที่เคลื่อนขยับผ่านส่วนต่างๆของร่างกายเขามันเร่าร้อนจนแทบละลาย
แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ควรจะคุยกันก่อน มือสองข้างที่เคยรั้งกับลำคอหนาเพื่อรับรสจูบเมื่อก่อนหน้าโฮซอกเลยต้องใช้มันมาดันหน้าอีกคนให้ห่างเอาไว้ก่อน
“ไม่มีคนอื่นก็ห้ามแตะหรอ”
แม้คำพูดจำจาจะเหมือนตัดพ้อเสียเต็มประดา แต่รอยยิ้มกริ่มกับใบหน้าหล่อที่พยายามมเคลื่อนเข้าหาเขาอีกครั้งนั้นโฮซอกก็ไม่คิดหรอกว่าแทฮยองจะปรานีกับคำห้ามต่างๆ
นานา ที่เขาพูดไป
“ก็เป็นซะแบบนี้ไง เคยได้คุยกันดีๆ ที่ไหน”
“ก็คุย...อยู่เนี้ย”
“คุยบ้าคุยบออะไรของมึงเนี้ย!” โฮซอกดุขึ้นอีกครั้งเมื่อตอนนี้ใต้เสื้อนอนที่สวมอยู่มีมือร้อนๆ
ของอีกคนสอดเข้าไปลูบวนอยู่กับแผ่นหลังและมีทีท่าว่าจะขยับต่ำลงเรื่อยๆ ถ้ามันจะทำกับขนาดนี้แล้วก็จะไม่ต้องบอกแล้วว่าชอบ
ไปบอกพ่อเขาว่าได้เสียกันเลยก็ได้โว้ย!!
“ก็มึงไม่รีบพูด”
“ก็ให้เวลาบ้างสิว๊ะ!”
“งั้น เดี๋ยวกูหาไรทำฆ่าเวลา”
“แทฮยอง! ” เสียงประท้วงของโฮซอกดังขึ้นลั่นห้องทันทีเมื่อแขกไม่ประสงค์ดีเริ่มดันร่างของเขาลงกับผืนเตียงนุ่ม ไม่ใช่ว่าฆ่าเวลาแบบนี้สิไอ้แท!!!
“ฮื๊ออ” ก็ถึงจะประท้วงในใจไปร้อยแปดพันเก้า
สิ่งเดียวเลยที่โฮซอกทำได้ดันเป็นแค่เสียงครางฮือในลำคอ ยิ่งโดนฝ่ามือร้อนเคลื่อนมาปลุกปั่นเหนือจุดยุทธศาสตร์แล้วด้วย
อารมณ์ที่กรุ่นๆ จากความถวิลหาลึกๆ ยิ่งพวยพุ่งขึ้นมาได้ง่ายขึ้นไปอีก
ความรู้สึกที่เคยบอกว่าอยู่ลึกมันแทบทะลักออกมาเวลาอยู่กันคนคนนี้ แทฮยองมันคนร้ายกาจ!
“ไม่เอา อย่าพึ่ง..ฮื้อ”
“ไม่มีใครหรอก”
“ไม่ใช่แบบนะ...อ๊ะ!” สู้แล้ว นี่โฮซอกพยายามจะสู้แล้วกับเรียวลิ้นร้อนที่กวาดไปมาอยู่บนหน้าอกของตัวเอง
ไม่ต้องนับถึงการจะสู้กับฝ่ามือใหญ่ที่ป้วนเปี้ยนจะรั้งกางเกงนอนเขาออก
ขนาดตะครุบไว้ทันแทฮยองยังหาทางลื่นไปต่อได้ ร่างที่แผ่หลาอยู่กับผืนเตียงถึงกับสะดุ้งเมื่อตอนนี้ฝ่ามืออีกคนมันเข้าล้วงเข้าไปลึกกระทั่งถึงเจ้าตัวน้อยข้างในที่ยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากนัก
“ถอด”
พอมีตัวประกันในมือแทฮยองก็เหมือนสั่งได้ทันที รอยยิ้มล้อๆ ปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อสะโพกมนของคนบนตักยกตัวขึ้นอย่างว่าง่าย
กางเกงนอนตัวบางที่เคยวมใส่ถูกรั้งออกไปจากเอวเล็กทันที ต่อด้วยเสียงครางหวานที่ค่อยๆ
ดังขึ้นเช่นเดียวกับตำแหน่งใบหน้าของแทฮยองที่เลื่อนขึ้นมาเหมือนกัน
จากแผ่นท้องแบนราบ เนินอกบาง ต้นคอขาว ปลายคางมน
แทฮยองเลื่อนผ่านฝากฝังร่องรอยอารมณ์ไว้แทบจะทุกที่ กลิ่นกายแสนคุ้นที่พูดตรงๆ
ก็ทั้งหลงทั้งรักของอีกคนแทฮยองก็ไม่ได้พลาดที่จะเก็บเกี่ยวมันเอาไว้
“อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวพี่ได้ยิน”
“ฮื้ออ” โจทย์ยากๆ
ที่แทฮยองทิ้งเอาไว้ให้นั้นมาพร้อมสัมผัสหยาบกร้านของฝ่ามือหนาที่เริ่มรุนแรงขึ้น
ยิ่งสะโพกมนขยับสู้แรงรูดรั้ง สัมผัสเสียดสีที่ส่งลงไปถึงช่วงความเป็นชายใต้ร่มผ้าของแทฮยองก็ยิ่งผงาดหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งแรงดุนดันจากเบื่องล่างเบียดเสียดขึ้นมาโฮซอกก็ยิ่งกดสะโพกลงทักทายเหมือนตอนนี้ต่างคนต่างโหยหาสัมผัสจากอีกฝ่าย
“อ่อยจังวะ” เสื้อยืดที่สวมมาถูกแทฮยองถอดทิ้งออกไปเมื่อความร้อนในกายมันเริ่มพุ่งสูงขึ้น
ทั้งจากมวลกามาอารมณ์ ทั้งผิวกายนุ่นลื่นของคนตรงหน้า
ถึงตอนนี้โฮซอกจะไม่ได้เนื้อตัวเปลือยเปล่า แต่เสื้อนอนคอกว้างๆ
กับภาพเบื้องล่างวับๆ แวมๆ ที่เห็นนี่มันก็เซ็กซี่ไม่หยอก เผลอๆ
เร่าร้อนกว่าตอนเปลือยเสียอีก
“ปากมะ อ๊ะ! ...แท..ฮ..”
โฮซอกเกือบจะได้ด่าออกมาเมื่อแทฮยองแอบเย้าเข้าให้ แต่พูดยังไม่จบประโยคดีก็มีอันต้องหงายหลังตึงเพราะแทฮยองเล่นทุ่มเขาลงกับเตียง
ดีที่ไม่เจ็บอะไร แต่ก็แอบเสียวไม่น้อยเหมือนกันว่าหัวจะไปฟาดกับขอบเตียงเข้า
“อย่าแกล้งสิวะ! ”
“ก็บอกไม่อยากให้แตะ”
“ไม่กวนตีนดิ๊” โฮซอกถึงกับครางแผ่วออกมา
เมื่อสบเข้ากับตาคมของคนเบื้องล่างที่ก็ไม่ได้ไปไหน
ยังคงวนเวียนอยู่กับท่อนล่างของเขา
แต่มือใหญ่ที่ทำเป็นลากผ่านไปมาบนท้องน้อยนั่นก็ไม่ยอมทำอะไรต่อทั้งที่ตอนนี้เจ้าลูกชายตัวน้อยเขามันกำลังตื่น
และอีกนิดเดียวก็พร้อมจะลืมตามาดูโลกแล้วแท้ๆ ปวดหนึบไปทั้งสะโพกเลยสนุกนักหรอได้รังแกเขาเนี้ย!
“ทำเองดิ๊”
“ฮื้อ! ” โฮซอกคำรามใส่อีกคนทันที
ก่อนยันตัวเองถอยออกมาชิดเตียงอีกฝั่ง ก็ในเมื่อแทฮยองไม่สานต่อเขาก็ช่วยตัวเองได้
ท่ามกลางสายตาของอีกคนโฮซอกยันใช้มือข้างหนึ่งยันกับเตียงพยุงตัวเอาไว้
มืออีกข้างก็ขยับมากอบกุมแก่นกายตัวเองอย่างแผ่วเบา ก่อนออกแรงขยับรั้งขึ้นลงด้วยจังหวะที่คุ้นเคยปรนเปรอมันเองเหมือนทุกครั้งที่ต้องการ
จากเสียงหายใจฮึดฮัด
กลายเป้ฯเสียงเครือเบาๆก่อนเสียงกระเส่าถี่รัวจะดังขึ้นตามมา นอกจากเสียงครางที่ดังอยู่แทบตลอด
ใบหน้ามนหลับตาพริ้มปิดหูปิดตาจากภาพคนตรงหน้าที่กำลังมองมาด้วยสายตาที่กวาดมองตัวเองเหมือนเหยื่อ
พอรู้สึกว่าตัวเองหายใจได้ไม่ทั่วท้องโฮซอกก็ต้องเชิดหน้าขึ้น มืออีกข้างที่เคยยันตัวไว้ถูกเลื่อนมาสัมผัสร่างกายใต้ผืนเสื้อตัวเองเบาๆ
ทิ้งกลุ่มผมนุ่มฟูกับต้นคอให้ขอบเตียงช่วยพยุงร่างเอาไว้แทน
จากริมฝีปากบางซีดตอนนี้โฮซอกกดเม้มมันแน่นขึ้นจนซีดหนักขึ้นไปอีกสลับกับปล่อยให้มันเผยร่องรอยบวมเต่งเป็นพักๆจากการอ้าปากหอบหายใจ
ยิ่งมือของเจ้าตัวขยับขึ้นลงเร็วแค่ไหน เสียงใสใสที่ครางสั่นเครือนั้นยิ่งเล็ดลอดดังออกมา
“พอก่อน”
“อะไรอีก!” พอเห็นอีกฝ่ายท่าทางจะไม่ไหวแทฮยองก็คลานข้ามเตียงเข้ามาหา
ข้อมือของโฮซอกถูกยึดเอาไว้แน่นไม่ให้ทำหน้าที่ของตัวเองต่อ โฮซอกที่อยู่ๆ
ก็โดนขัดให้ค้างเติ่งก็ถึงกับเหวี่ยงใส่ไปอีกรอบ
“อย่าพึ่งดิ๊ กูยังไม่ถึงไหนเลย”
“เรื่องของมึง ปล่อย!” โฮซอกพยายามจะเบียดต้นขาของตัวเองเข้าหากันเมื่อตอนนี้หว่างขาเขามันมีสะโพกหนาของอีกคนแทรกเข้ามา
จากภาพเนื้อผ้าที่พองออกมาให้เห็นนั้นเขาไม่เชื่อหรอกว่าแทฮยองจะไม่ถึงไหน
“มึง กูทำให้หลายทีแล้ว ทำให้กูบ้าง”
“ไม่!” ถ้าจะหาคนที่แก้ผ้าจะมีอะไรกันอยู่รอมร่อแต่หาเรื่องมาทะเลาะกันได้บ่อยที่สุดละก็
แทฮยองกับโฮซอกคงมีชื่อเข้าชิง แถมเป็นตัวเต็งแน่ๆ
ยิ่งเรื่องปัญหาโลกแตกที่แทฮยองเอ่ยขอมาทุกทีแล้วนี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
“มึง...แทน้อยต้องการความอบอุ่น”
“ก็แทน้อยของมึงสิ”
ถึงจะตีหน้าเหวี่ยงใส่แต่พอโดนเสียงทุ้มๆ
ของอีกคนมากระซิบอ้อนข้างหูมันก็ทำแก้มกลมสองข้างถึงกับขึ้นสีแดงแล้วแดงอีก
ยิ่งบวกสรรพนามเรียกน้องน้อยกับรอยยิ้มอ้อนๆ ของคนตรงหน้ายิ่งทำโฮซอกแอบหลุดยิ้มเข้าไปใหญ่
“ทีซอกน้อยกูยังทำให้เลยมึง...”
“กูขอหรอ?”
“แต่กูขอไงนะครับ น๊ะ” เสียงทุ้มพร่ากับริมฝีปากนุ่มออดอ้อนที่พรมจูบเบาๆ
ไปทั่วสองแก้มเริ่มทำคนที่ตั้งหน้าตั้งตาไม่ยอมท่าเดียวต้องเกิดอาการลังเล
เรื่องนี้โฮซอกไม่รู้หรอกว่าแทฮยองติดใจอะไรนักหนากับการจะให้เขาเอาปากไปปรบเปรอเจ้าตัวเพราะตั้งแต่ครั้งแรกเรื่อยมา
แทฮยองก็เอ่ยขอทุกครั้ง ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่ถ้าคนก่อนๆของแทฮยองทำไว้ดี
เขากลัวว่าถ้าทำลงไปมันอาจจะดูแย่ขึ้นมา ถ้ามันไม่ประทับใจ...ไม่ไหวหรอก
ต้องพังแน่
“ห้ามล้อ”
“หึ..”
“ห้ามล้อ!”
“ไม่ล้อ”
แทฮยองยอมสัญญาออกมาทั้งรอยยิ้มก่อนผละออกไป
เจ้าตัวขยับกลับไปปลายเตียงอีกฝั่งมือเองก็รั้งโฮซอกให้ขยับตามไปด้วย
มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะยิ้มออกมาชนิดที่เรียกว่ายิ้มแล้วยิ้มอีกกับท่าทางเก้ๆ กังๆ
ของคนที่กำลังขยับตามเข้ามา แต่มือสองข้างกลับดึงเสื้อนอนตัวเองเพื่อใช้ปกปิดท่อนเนื้อร้อนด้านล่างที่กำลังตื่นตัวแข่งกับอากาศเย็นโดนรอบ
จากคอเสื้อที่ก็กว้างอยู่แล้วตอนนี้โฮซอกดึงมันจนย้วยลงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ปิดไฟได้ไหม....”
“ตามใจดิ๊”
“มึงอะลงไป”
“??”
“กูแก้ผ้าอยู่เนี้ย ลุ๊ก!” สุดท้ายก่อนจะลีลาท่ามากจนโฮซอกเปลี่ยนใจขึ้นมา
แทฮยองก็ยอมลงเตียงทั้งส่ายหน้าแบบตลกตัวเองสุดๆเพื่อเดินไปปิดไฟในห้อง
แถมปิดไฟหัวเตียงให้ด้วย เรียกว่าอำนวยความสะดวกให้สุดๆ
ทั้งที่ใจจริงอยากเห็นหน้าอีกคนให้ชัดๆ มากกว่า
“ทำใจได้ยัง?”
“รอเดี๋ยวไม่ได้ไง”
“อย่าสั่นมึง อย่าสั่น” แทฮยองกลับขึ้นเตียงมานั่งที่เดิมโดยที่ตรงหน้านี้ยังมีร่างของโฮซอกนั่งอยู่เหมือนเดิม
พออะไรมันดูเข้าที่เข้าทางมาหน่อยแทฮยองก็ต้องหลุดขำออกมาอีกกับมือคู่บางที่ยื่นมาป้วนเปี้ยนอยู่กับซิปกางเกงของเขา
กว่าจะควานหาซิปเจอก็เล่นเอาซี๊ดปากไปหลายที มือเล็กๆ
คู่นั้นทั้งสั่นทั้งเย็นจนนึกห่วง แต่ใต้แสงสลัวของไฟจากด้านนอกที่ส่องเข้ามา
นัยน์ตากลมของโฮซอกมันสะท้อนแค่ภาพของเขา ภาพความปรารถนาในตัวเขา
“ไม่สั่นดิ๊” แทฮยองมอบจูบเบาๆ ให้กำลังใจอีกคนก่อนจะรั้งเอวบางเข้ามาใกล้มากขึ้น
ถ้าโฮซอกปฏิเสธวันนี้เขาก็ไม่ว่า ไม่ว่าอะไรเลยเพราะคราวหน้ายังไงเขาก็ขออีก
จะอ้อนจนกว่าจะยอมถามว่าทำไม ไม่ได้ติดใจอะไรมาหรอกก็แค่อยาก...อยากรู้สึกถึงลิ้นเล็กๆเจ้าปัญหาของคนหัวดื้อตรงหน้าว่าเวลาที่มันลากไล้ไปตามตัวตันของเขามันจะเป็นยังไง
จะรู้สึกยังไง อยากให้โฮซอกลองสัมผัสมันบ้าง
เขาอยากขยี้คนตรงหน้านี้ให้ช้ำไปทั้งตัวเหมือนที่เคยทำกับคนอื่นนั่นแหละ
แต่โฮซอกน่ารักเกินกว่าจะทำอะไรแบบนั้นได้ลง
สัมผัสเดียงสาที่ไม่จะว่าจะผ่านมากี่ครั้ง
มือเล็กคู่นั้นยังสัมผัสร่างกายของเขาอย่างลังเล แก้วตาใสที่ช้อนขึ้นมาสบกันทุกครั้ง
ในแววตาเจ้าตัวยังคงมีความไม่มั่นใจอยู่เสมอ แต่สัมผัสแผ่วเบาจากริมฝีปากอุ่นที่ประทับลงบนแท่งเนื้อร้อนก่อนมันจะค่อยๆ
กลืนหายเข้าไปในโพรงปากเล็กก็ทำแทฮยองใจเต้นตึกตักขึ้นมาได้
ความเป็นชายของแทฮยองค่อยๆ ถูกรุกล้ำอย่างเชื่องช้าๆ
ลิ้นเล็กที่พยายามกวาดวนให้รอบท่อนเนื้ออุ่นนั้นสะเปะสะปะทั้งสั่น ทั้งกลัวบ่งบอกความอ่อนหัดชัดเจน
แต่เหมือนยิ่งลิ้นเล็กๆนั่นขยับวุ่นงายแทฮยองยิ่งต้องกัดฟันแน่นขึ้น
เขาอยากปล่อยโฮซอกพยายามด้วยตัวเองไปก่อน แต่เสียงอึกอักเพราะหายใจไม่ทันที่ดังขึ้นมามันก็ทำแทฮยองเป็นกังวล
กลัวจะสำลักเข้าให้ แต่สัมผัสหวาดเสียวยามที่ฟันคมครูดผ่านผิวเนื้อที่อีกคนทำขึ้นก็ทำแทฮยองตึงได้ไม่น้อย
ขนาดที่รู้สึกได้เลยว่าปลายแกนกายใหญ่ที่กำลังคับพองอยู่เต็มปากอิ่มนั้นมีสัญญาณเตือนมวลอารมณ์ไหลออกมาแน่
“เร็วอีก” แทฮยองถึงกับครางเร่ง
แต่พอโฮซอกไม่ได้ดั่งใจอย่างที่คิด ฝ่ามือใหญ่ก็ขย้ำลงบนกลุ่มผมนุ่ม
ดึงรั้งกำหนดจังหวะการเคลื่อนไหวให้หนักหน่วงขึ้นไปอีก
โฮซอกพยายามใช้มือหนึ่งยกขึ้นมาเช็ดหยาดน้ำลายใสที่ไหลออกจากมุมปากออกไป
ขณะที่อีกข้างยังพยายามจะดันสะโพกใหญ่ที่ขยับอยู่ตรงหน้าให้เอาไว้ให้ช้าลง
ก้อนเนื้อหนั่นที่คับแน่นอยู่ในโพรงปากกับจังหวะเคลื่อนไหวที่ทั้งลึกและแรงนั้นก็ทำโฮซอกทั้งเจ็บทั้งอึดอัด
ยิ่งแทฮยองออกแรงกดเน้นมากเท่าไหร่มันยิ่งดุนดันเข้าไปลึกจนแทบหายใจไม่ออก
ทว่าเสียงประท้วงของเขามันดังออกมาจากลำคอไม่ได้
แม้จะทรมานแต่ใต้ความรู้สึกที่ปะปนกันออกมา
ร่างกายของเขาเองมันกลับตื่นตัวได้ไม่ต่างเวลาที่แทฮยองเป็นฝ่ายทำให้
“ฮื๊อ!” โฮซอกครางฮือทันทีเมื่อมือที่กำลังจะเลื่อนลงไปจัดการกับตัวเองบ้างถูกอีกคนโน้มตัวมารั้งเอาไว้
ทันทีที่ริมโพรงปากอุ่นผละปล่อยแท่งเนื้อร้อนให้เป็นอิสระ
หยาดน้ำลายเหนียวเลอะอยู่ตามมุมปากก็ถูกแทฮยองเข้ามาเก็บกวาดอย่างรวดเร็ว
โพรงปากอุ่นที่พึ่งเว้นว่างถูกเติมเต็มอีกครั้งแทบจะทันทีด้วยเรียวลิ้นหนาที่แทรกเข้ามาหยอกล้อ
“ไม่เอาไหนเลยมึงเนี้ย”
“ก็บอกว่าทำ..ไม่เป็น”
“กัดไว้ เดี๋ยวพี่ได้ยิน”
ถึงจะบ่นเหมือนอีกคนแย่แต่แทฮยองก็ยังคว้าเอวเล็กให้ขยับขึ้นมาบนตักอีกครั้ง ให้เนินเนื้อแน่นได้บดเบียดลงมาบนตัวเขา
เสื้อยืดใส่นอนตัวโครงถูกรั้งขึ้นไปให้เจ้าของมันกัดเอาไว้ในปากแล้วท่าทางว่าง่ายกับสายตางอนๆ
ของคนบนตักนั้นมันชักทำแทฮยองหมั่นไส้หนักขึ้นไปอีก ยิ่งฟันคมๆ
ของคนบนตักจงใจแกล้งกัดลงบนนิ้วตอนที่เขารั้งเสื้อไปใส่ปากให้ด้วยแล้ว
ความหมั่นไส้ยิ่งเท่าทวีคูน
“อึ๊!” โฮซอกสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเมื่อฟันคมๆ
ชุดหนึ่งฝังลงบนเนินอก
ความเจ็บที่แล่นเข้ามาในโสตประสาทบ่งบอกว่ามันต้องถลอกไม่ก็เป็นแผลแน่ แม้มือสองข้างจะยกมาดันร่างของแทฮยองให้ออกห่างเพื่อจะสำรวจตัวเอง
แต่ช่วงเอวเล็กที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยท่อนแขนใหญ่นั้นก็ทำให้โฮซอกต้องอยู่ที่เดิม
แล้วเสียงซี๊ดปากเบาๆ
ก็ดังขึ้นจากปากอิ่มเมื่อความรู้สึกแสบแล่นริ้วเล่นงานเขาอีกบนร่องรอยจากคมเขี้ยวเมื่อครู่
น้ำลายเหนียวกับเรียวลิ้นสากที่ลากผ่านนั้นทำเอาทั้งแสบทั้งเสียวไปพร้อมกัน
จากเสียงซี๊ดอื้ออ้ากลายเป็นเสียงลมหายใจหนักๆ
ที่ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะรูดรั้งรุนแรงบนกายเนื้อ
ช่วงอกบางที่กระเพื่อมขึ้นลงอยู่เริ่มแสดงรอยแดงจากรอยเขี้ยวรอยฟันที่แทฮยองทำขึ้นแบบไม่ปรานีที่จะเว้นว่าง
แต่เสียงครางที่ปกติควรจะอื้ออึงแข่งกันของพวกเขามันกลับแผ่วเบา
แทฮยองนั้นก็นิ่งอยู่แล้วตามวิสัย
แต่โฮซอกที่ต้องเงียบตามแทบจะขาดใจก็ได้แต่น้ำตาเล็ด
“แท..ฮื้อ”
“อื้อ ช้าๆ”
แล้วเขื่อนน้ำตาโฮซอกก็มาแตกลงที่เดิมจนได้เมื่อร่างกายที่ไม่ได้ตระเตรียมอะไรนักเหมือนคราวก่อนๆ
ต้องรองรับความเป็นชายของอีกคนเข้าไป ความเจ็บที่แล่นริ้วเข้ามานั้นก็คุ้นเคยกันดีเหมือนเช่นทุกครั้ง
แต่มันหนักหนาจากขนาดช่องทางเล็กนั้นฝืนเกินไปจากทั้งความฝืดเคือง และช่วงเวลาที่เว้นว่างจากกิจกรรมเข้าจังหวะมาพอสมควร
แม้จะมีมือใหญ่ที่คอยปรนเปรออยู่เบื้องหน้าแต่ทว่ามันก็ไม่พอ เสียงลมหายใจที่ติดขัดปนสะอื้นที่ดังขึ้นแนบไหล่กว้างของแทฮยองตอนนี้ดูท่าแล้วเจ้าตัวจะไม่ไหว
“เจ็บ”
ถึงแทฮยองจะปลุกจะปลอบแต่ใบหน้ามนที่ส่ายไปมาอยู่แนบไหล่น้ำตาไหลชื้นก็ทำแทฮยองไม่กล้าขยับต่อ
จริงอยู่ที่ว่าช่องทางคับแน่นนี้สามารถรับความเป็นชายของแทฮยองเข้าไปได้แล้ว
แต่โฮซอกคงไม่สามารถจะขยับหรือเคลื่อนไหว ความเจ็บตึงที่เล่นงานเข้ามาอย่างหนักนั้นรุนแรงเกินจะรับได้
อีกอย่างพวกเขาเสียงดังมากเหมือนตอนอยู่บ้านแทฮยองก็ไม่ได้อีก เพราะอย่างนั้นถ้าฝืนมากไปอาจจะเป็นเรื่องเอา
“ไม่ไหวก็พอ”
“หื่อ”
“มึง ไม่ไหวก็หยุด!” แทฮยองถึงกับขึ้นเสียงหน่อยๆ
เมื่อคนบนตัวไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งคอเขาเอาไว้ออก แม้แต่ตอนนี้ที่โดนเขาว่าเข้าให้ใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่อยู่บนไหล่ยังกล้าส่ายประท้วง
“หื่ออออ”
“โฮซอก”
“กูคิด..คิดถึงมึง”
“จะคิดถึงอะไรก็ไม่ใช่ท่านี้สิ”
แทฮยองถึงกับอ่อนใจที่อยู่ๆ อีกคนก็มาบอกคิดถึง แต่ตอนนี้เขาเจ็บให้หยาบๆ
ความบาปในหัวเองก็แล่นปรื๊ดอยากขยี้คนบนตกนี่แทบตาย แต่ห่วงร่างหายนี้ก็ด้วย แถมแทน้อยของเขาตอนนี้ก็ทั้งเจ็บทั้งอึดอัด
แต่แทนที่อีกคนจะเข้าใจ จะมาคิดถึงอะไรตอนนี้กันว๊ะ
เดี๋ยวได้เจ็บหนักแทนคิดถึงกันพอดี
“กู...อยากทำกับมึง....”
“พูดไรเนี้ย??”
“กู...อยากนอนกับมึง”
“...เชี่ย!” จะว่าแทฮยองตื่นตูมก็ได้
แต่ในเมื่อโฮซอกเล่นมาพูดอย่างนี้ตอนนี้
เวลานี้ที่แทน้อยของเขามันพร้อมจะกระแทกกระทั้นนักแทฮยองก็อดไม่ได้จริงๆ
“ฮื้อ! อึก!”
“ทีหลังอย่ามาโวยไม่ให้จับอีกนะ”
“ด๊ะ...อ๊า! อื้ออ”
“อย่า..ฮื้อ..อย่าร้องเชียว”
ทันทีที่สิ้นเสียงแผ่นหลังของโฮซอกกระแทกกับที่นอนดังตึง ช่องทางบางช้ำที่มีเพียงแค่ถุงยางที่พอจะเป็นตัวช่วยเริ่มถูกระรานหนักขึ้นเมื่อแทฮยองลั่นคำขาด
“เจ๊บ!
แทฮยองเจ็บ!”
“ฮื้ย!”
แต่พอขยับแล้วมันดูท่าแล้วมันคงไม่ไหวเข้าจริงๆ แทฮยองก็ควานหาตัวช่วยทันที
ขวดครีมทาผิวที่วางทิ้งอยู่แถวนั้นถูกคว้ามาเปิดแบบไม่ต้องคิดมันให้มากความ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต่อให้ประท้วงแค่ไหนแทน้อยที่กลายเป็นพ่อเสือไปแล้วก็ไม่มีทีท่าจะยอมให้โฮซอกง่ายๆ
แน่
จากห้องมืดๆ
ที่ควรจะเงียบในตอนนี้กลับมีเสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมาแทบตลอดเวลา
ท่อนขาเรียวที่ถูกยกมาเกี่ยวกับเอวสอบนั้นเริ่มดูล้า
แต่ทว่าเจ้าตัวก็ยังพยายามกัดฟันสู้
มือเล็กที่ถูกกดจนแทบจะจมที่นอนลงไปนั้นก็คว้าผ้าปูจนติดมือขึ้นมา
แรงกระแทกกระทั้นจากช่วงล่างมันเริ่มทำร่างกายบางปวดระบม
ความเป็นชายที่เริ่มเหนื่อยล้าของโฮซอกเองก็เริ่มต้องการที่จะหลับใหล ใจจะขาดอยู่แล้ว...
“แท..ฮื้อ...พอก่อน”
แต่ละคำที่กว่าจะดังลอดเสียงครางออกมาได้โฮซอกก็ว่ามันลำบากมากแล้ว
แต่ยิ่งมาเจอคนเอาแต่ใจหน้ามึนที่พอเขาขอเข้าหน่อยก็แค่ก้มลงมาจูบแรงๆ
ปิดปากไม่ให้พูดแล้วตั้งหน้าตั้งตาเอาแต่ใจต่อไป ไม่ได้สนเลยว่าคนโดนกระทำใจจะขาดตายคาเตียง
“แท...พอก่อน อึ๊ก”
“ชู่ว์...บอก ว่าไม่ไง”
ขนาดตัวเองเหงื่อท่วมตัวพอกัน แต่แทฮยองก็ยังไม่ยอมหยุด
ยังดีที่สะโพกหนานั้นยังพอจะผ่อนจังหวะลงให้โฮซอกได้หายใจหายคอบ้าง
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่จังหวะรักของพวกเขาวนลูปอยู่อย่างนี้
พอจังหวะกระทั้นผ่อนลงรสจูบหนักหน่วงที่ถูกมอบแทนที่ จากจังหวะรักรุนแรงที่แทฮยองวาดลงกับร่างกายโฮซอกตอนนี้มันเริ่มส่งผลให้คนถูกกระทำเริ่มช้ำระบมไปทุกส่วน
ขนาดที่ว่าจะยกมือมาตีอีกคนโฮซอกยังทำไม่ได้
มือเล็กที่กะจะฟาดปากคนเอาแต่ใจสักหน่อยก็กลายเป็นยกมาแปะเอาไว้เบาๆ ข้างแก้มสากแทน
ท่าทางแบบนี้เหมือนกับว่าเขายิ่งออดอ้อนให้อีกคนได้ใจเข้าไปใหญ่
เหมือเรียกร้องให้อีกคนโน้มลงมากดจูบเล่นอยู่ซ้ำๆ แทฮยอง....พอสักทีสิโว๊ยยยยยย!!
“เจ็บ เบาๆ หน่อย”
“ไม่”
“อ๊ะๆ ! อืออ” พูดยังไม่ขาดคำ
เพราะโฮซอกต้องกลับมากลั้นเสียงครางของตัวเองอีกครั้ง
เพราะคนเอาแต่ใจมันไม่ฟังเขาเลย...... เนี้ยยยย!! ไอ้คิม
แทฮยองมันเป็นคนอย่างนี้นี่ไงเขาถึงไม่อยากให้มันแตะต้อง!
ที่พูดว่าอยากทำกับมันไปก่อนหน้านี้...ก็แค่เผลอไปโว้ยยยยย!!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น