SF
BTS
Heartedness
VHope
NC
“จะถอดเองหรือให้กูถอดให้?”
“มึง...กูว่า”
“ป่านนี้แล้วนะ
ยังอยากจะเลิกอีกหรอ” ในห้องน้ำส่วนตัวขนาดแค่ไม่กี่เมตรในห้องลูกชายเจ้าของบ้าน
มีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้น ก่อนตามมาด้วยเสียงน้ำจากฝักบัว
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรกับการที่เด็กหนุ่มสองคนจะอาบน้ำด้วยกัน
แต่โฮซอกไม่เคยทำอย่างนั้นกับแทฮยองเลยทั้งที่สนิทกันมาก แล้วการที่อีกคนมาถอดเสื้อต่อหน้าแก้ผ้าแทบจะล่อนจ้อนมายืนข้างกันแบบนี้มันก็ทำคนมองรู้สึกหวั่นใจไม่น้อย
ก่อนหน้าในห้องนอนตอนเห็นแทฮยองใส่เสื้อกล้ามเขาก็ไม่ได้คิดว่ารูปร่างเพื่อนสนิทจะมีอะไรขนาดนี้
นี่ยิ่งถอดยิ่งเจอ
ใบหน้ามนพยายามจะเบือนหนีจากการที่ต้องมองร่างกายอีกฝ่ายรวมทั้งหยดน้ำจากฝักบัวที่กระเด็นมาโดนจนเปียกไปหมด
โฮซอกเลือกจะหันหน้าเข้าฝา เอาหน้าผากไปทิ้งแหมะแปะลงกับผนังเย็นๆ พยายามคิดทบทวนอยู่ในใจว่าตอนนี้มาทำบ้าอะไรที่นี่
แล้วตัวเขาเองอยากจะทำแบบนี้จริงๆ
นั่นหรือ?
อยู่ๆ
ไอความร้อนที่พวยพุ่งอยู่ในห้องอาบน้ำเล็กๆ ก็โอบล้อมขึ้นรอบกาย ลมหายใจร้อนผ่าวที่สัมผัสกับแผ่นหลังทำให้ตากลมของคนที่กำลังอยู่กับตัวเองต้องเบิกกว้างอย่างฉับพลัน
ยิ่งเมื่อหน้าท้องมีมืออุ่นของอีกคนที่อยู่ร่วมห้องโอบมาสัมผัสร่างกายของโฮซอกก็เหมือนจะเกร็งขึ้นมาเสียดื้อๆ
“มึงเปียกแล้วถอดเสื้อออกเหอะ”
ทันทีที่สัมผัสได้ถึงการล่วงล้ำจากอีกฝ่ายมือเรียวซีดก็เหมือนจะเย็นขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
แต่มันก็ยังตอบสนองไวพอที่จะคว้ามือของอีกคนไว้ทัน
แต่นั่นก็เหมือนเขากำลังฆ่าตัวเองทางอ้อมเมื่อคางเรียวร้อนจากคนด้านหลังยกมาเกยอยู่บนลาดไหล่
ความรู้สึกเสียววูบที่แล่นขึ้นมาตั้งแต่ต้นขายันต้นคอมันเริ่มทำโฮซอกใจสั่น
“กู..กูทำเองได้”
“กูทำให้ดีกว่า”
“มึง...”
แม้จะพยายามประท้วง
แต่เพียงสัมผัสอุ่นที่ประทับเบาๆ ที่ต้นคอก็ทำเอามือที่พยายามจะยื้อหมดแรงเอาดื้อๆจนต้องยอมปล่อยอีกคนไปเหมือนขนอ่อนทั้งตัวเองก็พร้อมใจลุกฮือขึ้นพร้อมกัน
ไม่รู้แทฮยองทำยังไง แต่กว่าโฮซอกกลับมารู้ตัวอีกทีเสื้อกล้ามตัวบางที่เคยช่วยปกปิดเนื้อตัวช่วงบนไว้บ้างเมื่อก่อนหน้าก็ถูกเกี่ยวออกจากตัวไปแล้ว
“ฮื้อ..”
“เดี๋ยวกูทำให้”
ทั้งที่ร่างกายก็ยังเป็นของตัวเอง
แต่เจ้าของร่างอย่างโฮซอกดูจะควบคุมอะไรไม่ค่อยได้ เสียงหอบหายใจที่ค่อยๆดังแข่งเสียงน้ำขึ้นเรื่อยๆนั้นมันเหมือนไม่ใช่เสียงของเขาเอง
ความรู้สึกตึงแน่นที่ค่อยๆก่อตามแกนกายใต้ท้องน้อยนั้นเริ่มทำเขามือสั่น
ทั้งที่ตัวเขาแทบจะล้มไปทั้งอยางนี้แต่เสียงแทฮยองที่แทรกมาให้ได้ยินมันกลับยังคงเรียบเฉย
มันแทบไม่ได้ต่างไปจากน้ำเสียงปกติที่อีกคนใช้พูดด้วยซ้ำ
ลมหายใจร้อนกับปลายจมูกโด่งของแทฮยองลากผ่านลาดไหล่มนอย่างช้าๆ
ปนไปกับเสียงจูบเบาๆที่ประทับในทุกๆที่ที่ขยับผ่าน
กระทั่งไปเสียงหายใจแผ่วของเจ้าตัวมาหยุดลงแนบต้นคอขาว แทฮยองยังคงเงียบนิ่ง
สีหน้าเองแทบไม่ได้เปลี่ยน มีเพียงแค่ใบหูบางเท่านั้นที่ค่อยๆ ขึ้นสี
จุ๊บ
ใบหน้าของแทฮยองยังคงวนเวียนอยู่กับต้นคอของอีกคนกระทั่งเสียงจูบเบาๆดังขึ้นอีกครั้งจากต้นคอด้านหลังของโฮซอก
ขณะที่มือใหญ่สองข้างก็ยังขยับต่ำลงไปเรื่อยแต่เหมือนยั่วเย้าให้ช่วงเอวเล็กต้องขยับเบียดเข้าไปหา
ทั้งที่ในหัวยังหาคำตอบกับตัวเองไม่ได้ แต่ร่างกายบางกลับตอบสนองกับฝ่ามือร้อนอย่างเป็นธรรมชาติ
“อ๊า..อืม”
ทุกครั้งที่มือใหญ่ไล้ผ่านเหนือจุดอ่อนไหวเสียงครางแผ่วจากปากอิ่มมักจะดังกระเส่าเร้าความสนใจจากคนข้างหลังบ่อยๆ
โฮซอกเริ่มออกอาการเหนื่อยและเกร็งมากขึ้นจนต้องยกมือไปยันกำแพงเอาไว้ป้องกันไม่ให้ตัวเองทรุดลงไปกับพื้น
แล้วยิ่งอีกคนเป็นแบบนี้แทฮยองยิ่งได้ใจ
“มึงอย่า!
อื้ออ...”
แล้วกายบางที่หยัดด้วยสองขาก็สะดุ้ง
เมื่อตอนนี้มือใหญ่ที่เคยแค่วนเวียนของอีกคนหันมารุกล้ำจนเข้าไปถึงส่วนอ่อนไหวใต้ร่มผ้า
แม้จะห้ามก็เหมือนกับยิ่งยุแทฮยองเข้าไปใหญ่
ภายใต้ความอุ่นร้อนของฝ่ามือที่ครอบครองตัวเขาอยู่ จังหวะเบาๆ
ที่อีกคนกำลังมอบให้มันทำริมฝีปากอิ่มเผลอส่งเสียงครางขึ้นมาจริงๆ ก่อนฟันคมจะกัดฉับลงบนริมฝีปากล่างพยายามจะเงียบเสียงเนื่องจากสัมผัสอ่อนไหวที่อีกคนมอบให้
เขาไม่เคยได้ยินตัวเองครางเสียงดังขนาดนี้มาก่อน
ของแบบนี้นี่มันค่อนข้าง...น่าอาย
“ร้องเลย
ไม่มีใครได้ยินหรอก”
“ฮื้อออ..หายใจ...ไม่ออก”
“ก็อย่าฝืน”
ในขณะที่มือใหญ่ข้างหนึ่งกำลังทำหน้าปรนเปรอส่วนอ่อนไหวที่ค่อยๆ
ตื่นตัวของอีกคนขึ้น มืออีกข้างของแทฮยองก็ไม่ได้จะว่างอะไร มันเลื่อนขึ้นไปป้วนเปี้ยนเค้นคลึงอยู่กับจุดแข็งขืนสีเข้มบนอกบางอย่างไม่คิดจะปล่อยให้น้อยใจ
แม้ยามปกติเขาก็ได้สัมผัสมันบ้างแต่แน่นอนว่าไม่เคยสักครั้งที่อีกฝ่ายตอบสนองแบบนี้
ก็แน่หล่ะ ตอนนี้เขาไม่ได้กำลังหยอกกันเล่นเหมือนทุกที่นี่
“อึก!”
“เป็นอะไร?”
“ฮื้ออ”
“จะเสร็จหรอ?”
เสียงทุ้มพร่าของแทฮยองดังขึ้นอีกครั้งฝ่าเสียงสายน้ำเมื่ออีกคนยันตัวออกจากผนังมาพิงอกเขาเอาไว้
เสียงอื้ออึงของคนโฮซอกดังขึ้นเป็นช่วงๆ ใบหน้ามนเองก็หลับขึ้นสีแดงจัด ตาหลับปี๋
แม้แก้มกลมๆ นั้นจะส่ายไปมาปฏิเสธคำถามของเขา ในแก่นกายร้อนในมือก็ทำหน้าที่ตอบคำถามแทนปากไปแล้ว
“ฮื้อ..อย่า!”
โฮซอกคำรามฮือขึ้นมาในลำคอเมื่อร่างกายที่กำลังจะปลดปล่อย
แต่การกระทำปรนเปรอที่แทฮยองเคยมอบให้กลับหยุดลงเอาเสียดื้อๆ ไอร้อนจากฝ่ามือที่เคยขยับหยอกอยู่บนเนินอกผละเลื่อนลงด้านล่าง
ก่อนนิ้วยาวของแทฮยองจะเกี่ยวกางเกงผ้าตัวเล็กออกจากเอวเขา
“เกะกะ”
“อึก..ฮื่อ”
แม้ความรู้สึกเหมือนจะค้างไปชั่วครู่
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายกับสติของโฮซอกกลับมาครบถ้วนพอจะคิดอะไรทัน
หนำซ้ำร่างกายที่ไร้ซึ่งเนื้อผ้าปกปิดก็ยิ่งทำให้แทฮยองสัมผัสได้ทั่วถึงเข้าไปอีก
“มึงเสียงดังอีกนิดก็ได้”
“อย่าทำ..ฮื้อออ
แรง” จากเสียงทุ้มๆ ติดจะนิ่งจากข้างหลังที่โฮซอกได้ยินมาตลอด
ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วเสียงทุ้มนั้นกำลังสั่นพร่า พอๆ กับร่างกายเขาเองที่ตอนนี้สั่นรัวมาจากข้างใน
มือข้างหนึ่งที่เคยยันกำแพงไว้พยุงตัวเองถูกขยับกลับมากุมมืออีกคนที่กำลังครอบครองความเป็นชายของตัวเขาอยู่
ตอนนี้โฮซอกรับรู้ได้ถึงอารมณ์รุนแรงของตัวเองที่กำลังจะปะทุออกมา
“อย่าจิกสิ!”
“ฮื้ออออ เจ็บ!”
แล้วความกระสันซ่านจากร่างกายโฮซอกดูเหมือนจะส่งผ่านมาถึงแทฮยองได้
เพราะทันทีที่เล็บคมจากอีกคนค่อยๆ จิกฝังลงบนเนื้อแทฮยองก็ต้องส่งเสียงปรามออกมา
ยิ่งมันจิกโดนแผลจากเมื่อคืนแล้วด้วยก็ยิ่งเจ็บเข้าไปใหญ่
แต่เหมือนยิ่งปรามอีกคนจะยิ่งประชด โฮซอกเลยได้เขี้ยวคมๆฝากรอยลงบนต้นคอขาวไปหนึ่งที
“บอกว่าอย่าไง”
“อึก...ฮื้อออ”
อาจจะเพราะความเจ็บที่เกิดขึ้น
กายแกร่งในเงื้อมมือของแทฮยองถึงได้ถึงฝั่งฝันไวกว่าที่คิด
เจ้าของกายบางบิดเกร็งไปมาในอกของแทฮยองอยู่ครู่ก่อนจะครางฮือดังลั่นแทบกลบเสียงต่างๆ
ในห้อง แล้วของเหลวสีขุ่นที่พึ่งหลั่งออกมาก็ถูกชะล้างไปพร้อมกับสายน้ำที่ยังสาดรด
“บอกว่า
อย่าจิกมือกู”
“ขอโทษๆ”
เสียงเล็กๆที่เหลือรอดจากการหอบพยายามจะเอ่ยขอโทษ
ขณะที่แทฮยองเองก็ยอมปล่อยมือจากเอวเล็กเพื่อให้อีกคนเป็นอิสระ
เหมือนแทฮยองจะผละจากเขาไปปิดน้ำอุ่นที่ไหลผ่านกลบเสียงกิจกรรมเมื่อครู่
โฮซอกเลยต้องพาตัวเองเซไปยันกำแพงเหมือนเดิมเพราะตอนนี้แข้งขาเขามันสั่นเอามากๆ
บอกตามตรงในชีวิตนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนอื่นทำอะไรแบบนี้ให้
แล้วเขาก็ไม่คิดว่าคนคนนั้นมันจะเป็นเพื่อนตัวเอง อุตส่าห์จินตนาการถึงดาวโรงเรียนสวยๆ
เอาไว้ในใจมาตั้งหลายปี
“กูทำให้แล้ว
ทำให้กูบ้าง”
“หือ?”
แต่ห่างตัวไปได้ไม่เท่าไหร่
ยังหายใจไม่ทั่วท้องด้วยซ้ำเหมือนเอวเล็กของเขาจะโดนมือใหญ่คู่เดิมคว้าไปอีกแล้ว
แต่แทฮยองก็แค่ดึงให้โฮซอกหันออกมาจากกำแพงบ้าง
“ใช้ปากเป็นไหม?”
“บ้าอะไรของมึงเนี้ย!”
“อมไม่เป็น?”
“ไอ้เหี้ย!
กูไม่ทำ!”
แล้วพอรู้ตัวว่าหันออกมาแล้วจะเจออะไรโฮซอกก็โวยลั่นทันที
มือทั้งสองข้างพยายามยกขึ้นมากันอีกคนให้ออกห่าง
เขาพึ่งเห็นว่าแทฮยองก็ถอดกางเกงตัวสุดท้ายออกไปแล้วเหมือนกัน
ภาพความเป็นชายของอีกฝ่ายที่ตื่นตัวอยู่ตรงหน้า ถึงมันจะยังไม่ได้แข็งขืนเต็มที่อย่างที่เขาเป็นเมื่อครู่
แต่ก็มากพอจะทำให้เขาประมาณขนาดคร่าวๆ ของมันได้
“อมไม่เป็น
งั้นจูบเป็นไหม?”
“กูไม่จูบกับมึง!”
“ไหนว่าจะเป็นผัวกูไง?”
“ไม่เป็นมันแล้วไอ้เหี้ย!”
“งั้น จะเป็นเมียกู?”
“เห๊อะ!
ไม่มีทาง”
“ไม่ทันแล้วมึง”
“ไม่ มะ!
ฮื้อออออ!!”
เหมือนที่ถามไปแทฮยองก็คงแค่หาเรื่องถ่วงเวลาให้โฮซอกเผลอ
เพราะพอแขนเล็กสองข้างนั้นยกมาดันตัวเขาอีก แทฮยองก็ได้จังหวะรวบมันเอาไว้ เสียงครางไล่จากลำคอของคนพยศดังขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อแทฮยองพยายามจะเบียดริมฝีปากเข้ากับอีกคน
แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่ครู่หนึ่ง กระทั่งแทฮยองยอมที่จะละเป้าหมายออกจากริมฝีปากอิ่มเป็นซอกคอขาวแทน
ทั้งแผ่นหลังทั้งข้อมือเล็กสองข้างถูกดันไปกดไว้แน่นกับกำแพงให้ความเย็นเยียบจากผนังเย็นบาดเข้ามาในผิว
ค้านกับอากาศอุ่นชื้นที่ลอยอบอวลอยู่ในห้อง
ด้วยความช่ำชองจากประสบการณ์ที่ต่างกันมันไม่ได้ยากเลยสำหรับแทฮยองกับการเล้าโลมอีกฝ่ายให้ทำตามใจเขา
แต่มันเป็นเรื่องยากมากจริงๆ
สำหรับโฮซอกที่จะต่อต้านเรียวลิ้นร้อนที่ไล่กวดไปตามแผ่นอกของตัวเอง
ร่างกายที่ตอบสนองกับความเสียวซ่านนั้นมันเป็นไปเองเหมือนกับว่าตอนนี้ความคิดกับความรู้สึกของเขามันแยกกันเป็นส่วนๆ
“ไอ้แท!
กูไม่เอาแล้ว
ไม่เอาแล้ว”
“ไม่เอาไร?”
พอได้ยินอีกคนเสียงดังขึ้นมาแทฮยองก็ยอมจะหยุดการกระทำของตัวเองเอาไว้แล้วหันมาสนใจคนตรงหน้าดีๆ
แทนที่จะสนใจแผ่นอกบางแสนหวานที่เขาพึ่งจะได้ละเลียดชิมไป
“กูกลัว ฮึ๊ก!”
“กลัวอะไรของมึง
ร้องไห้เป็นเด็กๆ ทำไมวะ555” เสียงหัวเราะขำขันดึงขึ้นทันทีที่แทฮยองเห็นชัดๆ
ว่าอีกคนทำหน้ายังไงในตอนนี้ แก้มกลมกับปากอิ่มนั้นเบ้ออกมาพร้อมจะงอแงเต็มที่
ตากลมเองก็หยีจนแทบมองไม่เห็นนัยน์ตาเพราะกำลังจะร้องโฮ
เล่นเอาคนมองอดไม่ได้จะคว้าตัวสั่นๆ นั้นเข้ามากอดไว้แนบอก
“กูกลัวอ๊ะ!”
“เออๆ ขอโทษ
ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้กลัว” เสียงปลอบจากแทฮยองดังขึ้นทดแทนเสียงหัวเราะในทีแรก
เมื่อแขนเล็กของคนในอกนั้นยกมาคว้าเอวของเขาเหมือนกัน
หนำซ้ำจมูกโด่งกับหน้าผากมนของอีกคนก็ทิ้งตัวฝังลงกับไหล่เขาแน่น
“กู..ฮึก
กลัวจิงๆ นะโว้ย!”
“กูจะทำช้าๆไง
ทำเบาๆ ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย”
“มึงไม่ได้จะโดนเอาตูดแบบกูนี่
ก็พูดได้ดิ๊!”
“เอ๊า
งั้นกูให้มึงเอาอะ ทำเป็นไหมล่ะ?”
“....ไม่เอาอะไรทั้งนั้นแหละ!”
แทฮยองแอบขำเบาๆอีกรอบเมื่อคนในอกผุดออกมาโวยใส่หน้าเขา
แต่พอยื่นข้อเสนอให้คิ้วเข้มๆ ของอีกคนก็ขมวดมุ่นเหมือนกำลังคิด
ก่อนจะผ่านไปชั่วอึดใจเจ้าตัวถึงได้โวยออกมากอีก
“กลัวอะไรวะ
ไม่เชื่อใจกูหรอ?”
“ไม่!”
“งั้นกูจูบนะ”
“เกี่ยวอะไรวะ!”
“จะได้ไม่กลัวไง
ไม่เจ็บด้วย” ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าโดนหลอกแน่ๆ
แต่ก็แปลกที่โฮซอกยอมให้ริมฝีปากบางของเพื่อนจอมแผนการตรงหน้าขยับเข้ามาสัมผัสตัวเองอีก
แต่ถึงแม้ห่างกันแค่ไม่กี่นาที
ความรู้สึกกับรสสัมผัสมันกลับต่างกันมาก มากจนโฮซอกรู้สึกได้ว่าจูบจริงๆ
มันเป็นยังไง
ความช่ำชองจากของจริงอย่างแทฮยองมันต่างจากมือสมัครเล่นเป็นแค่ทฤษฎีแบบเขามาก
เพราะขนาดแค่จูบแทฮยองยังทำแข้งขาเขาอ่อนได้ยิ่งกว่าก่อนหน้าเสียอีก
โฮซอกนี่มันย้อนแย้งเกินคน กลัวอยู่ตะกี้
ก่อนหน้านี้ก็อยากเป็นผัว....อะไรของจอง โฮซอกเนี้ย
จากห้องน้ำเล็กที่เคยถูกกลบด้วยเสียงน้ำไหลตอนนี้กลายเป็นว่ามีเพียงเสียงจากสัมผัสริมฝีปากร้อนของคนสองคนที่ดังขึ้นเป็นระยะ
เนื้อกายความเป็นชายที่เคยสงบนิ่งหลังผ่านพายุอารมณ์ไปแล้วหนหนึ่งของโฮซอกถูกปลุกเร้าขึ้นมาอีกครั้งจากเพื่อนสนิทคนเดิม
“เจ็บ...”
“ใจเย็นสิ”
ในขณะที่โฮซอกตั้งท่าเอาแต่จะโวยวายกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น
แทฮยองเองก็พยายามทำใจเย็นกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดอยู่ตรงหน้า
“อึด..อัด”
เสียงบ่นเบาๆ
ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อร่างโปร่งบางพยายามจะทำตัวให้คุ้นชินกับเรียวนิ้วยาวที่ค่อยๆ
ล่วงล้ำเข้ามาในร่างกายตัวเอง หลังปราศจากสายน้ำอุ่นพื้นห้องน้ำเย็นเยียบคือสิ่งที่โฮซอกได้สัมผัส
แผ่นหลังบางที่แนบอิงอยู่กับผนังก็สัมผัสได้ถึงความเย็นจากข้างนอกที่แผ่เข้ามา
แต่นั่นก็ไม่ใช่อะไรที่จะดึงความสนใจจากสัมผัสแปลกใหม่ที่ชวนหวั่นตรงหว่างขาลงไปได้
“ทนหน่อย”
“อือ..ฮื้อออ
อ๊า!” เสียงฮือประท้วงจากโฮซอกดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อนิ้วของอีกคนเริ่มเคลื่อนไหว
ความรู้สึกกับสัมผัสที่เกิดขึ้นในช่องทางเล็กมันทำเขาเกร็งจนเจ็บไปหมดทั้งหน้าท้องและต้นขา
ถึงพยายามจะช่วยปรนเปรอแท่งเนื้อร้อนตรงหน้าของตัวเองแค่ไหนก็เหมือนมันจะยังไม่มากพอที่จะเลยผ่าน
ความเจ็บและความอึดอัดตรงนี้ไปได้
เขาอยากหยุด...อยากผ่านจุดนี้แล้ว
“ไอ้แท...เอาเลยก็ได้”
ยิ่งพอลืมตามาเห็นสีหน้าแทฮยองโฮซอกก็พยายามจะเม้มปากสู้บ้าง
เขาไม่รู้ว่ามันต้องทำขนาดไหนถึงจะมากพอที่อีกคนจะเข้ามาได้ แต่เขารู้ว่าตอนนี้ข้างในแทฮยองกำลังดิ้นพล่านขนาดไหนจากอาการกระสับกระส่ายและเหงื่อเม็ดใหญ่ที่ผุดออกมาตามหน้าผากทั้งที่อากาศก็เย็นจัด
แต่นอกจากอีกคนจะยังทำใจเย็นแล้ว เหมือนเพื่อนตัวดีจะเอาแต่ยิ้มให้ตลอดแม้เวลาเขาครางประท้วง
“เดี๋ยวเจ็บนะ
ไม่กลัวหรอ?”
“อึ๊ก!
ได้..พอแล้ว”
อย่างตอนนี้ที่ไม่รู้อีกคนตั้งใจหรือมันเป็นเทคนิคอะไรก็ไม่รู้กันแน่
นิ้วเรียวยาวที่หมุนคว้านอยู่รอบช่องทางเล็กเหมือนพยายามขยับขยายให้มากขึ้น
แต่เหมือนมันจะขยับเข้าออกถี่รัวเกินไปจนเขาเผลอครางเสียงสั่นจนตัวกระตุกไปด้วย
กว่าแทฮยองจะหยุดให้ตามที่ขอก็เกร็งแทบหยุดหายใจไปที
“เรา..”
“ถ้ามึงไม่รีบทำกูโกรธแล้วนะ!”
“หงุดหงิดอะไรของมึง?”
“ทำสักที
ไม่ไหวแล้ว” แทฮยองแอบตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ
อีกคนก็พูดแบบนี้ขึ้นมา ทั้งที่ก่อนหน้ากลัวเขาทำอะไรแทบตาย
จากที่จะชวนล้างตัวออกไปต่อที่เตียงแทฮยองเลยต้องเก็บไอ้ที่คิดๆเอาไว้กลับลงคอไปแล้วผุดยิ้มกริ่มขึ้นมาแทน
“ในนี้ไม่มีถุงยางนะ”
“จะทำอะไรก็รีบทำ”
แล้วยิ่งใบหน้ามนนั้นหันหนีพยายามไม่มองว่าเขาทำอะไรแทฮยองก็ยิ่งรู้สึกตลก
เขาไม่เคยทำกิจกรรมเข้าจังหวะในห้องน้ำหรอกนะ
คิดว่ามันคงไม่ค่อยจะดีต่อเข่าแล้วก็แน่ล่ะกับแผ่นหลังอีกคนด้วย
“อย่าบ่นว่าปวดแล้วกัน”
“ฮื้อ เย็น”
เสียงกระซิบเบาๆ
เหมือนเป็นการบอกกลายๆ จากแทฮยองดังขึ้นเป็นคำเตือนสุดท้าย ก่อนร่างของโฮซอกจะโดนดึงให้ลงไปนอนราบอยู่กับพื้นเปียกๆ
ของเหลวเย็นบางอย่างที่แทฮยองใช้เป็นตัวช่วยเมื่อตอนสอดนิ้วเข้าไปในร่างกายของเขาถูกเทลงที่เดิมอีกครั้ง
แต่ปริมาณคงจะมากกว่าเดิมเป็นแน่
โฮซอกมองตามมืออีกคนเล็กน้อยก่อนทิ้งตัวราบลงไปกับพื้น
เงยหน้ามองฝ้ามองฝักบัวแล้วปล่อยให้นิ้วลื่นๆของอีกคนแทรกเข้ามาในตัว
แทฮยองทำแบบนั้นอยู่สักพักก่อนจะผละออกไป มันก็ไม่ได้เจ็บหรือแย่นักถ้าเทียบกับก่อนหน้า
“อึก!”
แต่ความรู้สึกพวกนั้นไม่ได้อยู่ในห้วงสำนึกของโฮซอกอีกแล้วเมื่อความรู้สึกเจ็บแปล๊บแล่นผ่านจากร่างกายท่อนล่างขึ้นมา
ความรู้สึกจุกเสียดที่สะสมเป็นมวลก้อนที่ท้องน้อยทำเอาปากอิ่มอ้าค้างแต่ไร้เสียงใดๆ
เล็ดลอด
แต่แทนที่มันจะจบแค่นั้น
ความรู้สึกเจ็บยิ่งดุนดันเข้ามาอีกระลอกอย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว มันจุกจนเขาเองร้องไม่ออก
สิ่งเดียวที่พอจะทำได้กับตัวเองตอนนี้คือการปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา ใบหน้ามนเริ่มสายไปมาก่อนเสียงสะอื้นจะค่อยๆดังขึ้น
เขาไม่นึกว่า..มันจะเจ็บขนาดนี้
“เจ็บ..มากหรอ?”
แต่อย่างน้อยๆ
เขาก็ไม่ได้เจ็บคนเดียว
ถึงแม้พยายามฝืนจนโถมกายเข้าไปให้หมดได้
แต่แทฮยองไม่กล้าขยับตัวมากกว่านี้แล้ว เพราะโฮซอกเล่นนิ่งจนเขาเผลอตกใจไปด้วย พอเห็นน้ำตาหยดเล็กบนหางตาคนที่นอนอยู่บนพื้นมันทำให้แทฮยองต้องโน้มตัวลงไปหา
แขนแกร่งสองข้างค่อยๆสอดประคองใต้ต้นคอของอีกคนขึ้นมา
จูบเบาๆแนบซับหยดน้ำตาเล็กนั้นเอาไว้ก่อนประคองใบหน้ามนขึ้นมาแนบอก
ขณะที่มือเล็กสองข้างของคนใต้ร่างก็ยกมากอดเอวหนาเอาไว้แน่น
“ฮึ๊ก!
เจ็บ...อึ๊ก!”
“โฮซอก
กูขอล่ะ อย่าโกรธกันนะ” เสียงร้องของคนเจ็บค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ พอๆ
กับมือเล็กที่โอบรอบเอวของแทฮยองที่แน่นขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน และนั่นมันทำให้แทฮยองต้องทนรับความเจ็บจากเล็บคมที่อีกฝ่ายจิกลงมาบนแผ่นหลัง
แต่ถ้าเทียบกับความอึดอัดคับแน่นที่กำลังตอดรัดเขาอยู่ตอนนี้ จัดว่าห่างชั้น
“อื้อ”
ถึงจะรู้ว่าต่อจากนี้มันต้องเจ็บมากๆ
แต่คนเจ็บก็ยังอุตส่าห์ครางตอบ
เสียงครางหอบดังแข่งกับเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นอีกหนเมื่อแทฮยองมอบจังหวะเนิบนาบให้กับบทรักครั้งแรกของอีกคน
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงครางระงมดังแทรกเสียงเนื้อกระทบกัน จังหวะรักของทั้งคู่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆก็จริง
แต่บางช่วงแทฮยองเองก็ต้องผ่อนแรงลงเมื่อเห็นว่าคนในอ้อมอกเงียบเสียงเกินไป
“ปากแตกแล้ว”
แต่โฮซอกก็ไม่ได้หลับ
ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ไหว เพียงแค่เจ้าตัวพยายามกลั้นความรู้สึกด้วยการกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้
พอเห็นแบบนี้แทฮยองเองก็อดไม่ได้เหมือนกันที่จะสงสาร
กระทั่งเขาพยายามดึงอีกคนให้ขึ้นมานั่งคล่อมอยู่บนตัวได้
เขี้ยวคมชุดเดิมจากโฮซอกถึงได้หาที่ลงใหม่เจอจากริมฝีปากของตัวเองเป็นมาฝังลงบนไหล่แทฮยองแทน
“ขยับด้วย...กัดเจ็บจริง”
ยังดีที่เสียงสั่งแหบพร่าของเขามันยังชัดเจนพอจะให้โฮซอกฟังออก
เพราะสะโพกเล็กค่อยๆขยับตัวตามอย่างว่าง่าย ทุกครั้งที่ร่างกายขยับขึ้นลงเสียงครางหวานที่ปนมากับเสียงสะอื้นจะดังก้องไปทั่วห้องน้ำเล็ก
แทฮยองเองก็ต้องกัดฟันกั้นเสียงตัวเองอยู่ไม่น้อย แอบหมั่นเขี้ยวแผ่นอกบางที่กระเพิ่อมอยู่ตรงหน้านี้เหมือนกัน
แต่เขายังไม่อยากให้อีกคนมีแผลไปมากกว่านี้
“โฮซอก ช้าๆ”
“ฮืออออ”
“ค่อยๆ ขยับช้าๆก็ได้
กูไม่ไปไหนหรอก” แต่เหมือนคนที่มัวแต่สนองอารมณ์ตัวเองจะไม่ได้สนใจถึงผลต่อจากนี้เลย
เพราะโฮซอกเล่นโถมตัวใส่เขาไม่หยุด ยิ่งเข่าเล็กที่กระแทกเข้ากับพื้นห้องน้ำจนแดงแทฮยองยิ่งนึกห่วง
ทนไม่ไหวจริงๆ ที่จะรวบเอวบางตรงหน้าให้หยุดการกระทำลง
ภาพตรงหน้าเขาตอนนี้คือตากลมแสนคุ้นเคยของเพื่อนสนิทเขาที่เอ่อไปด้วยหยาดน้ำใส
กับความแดงช้ำที่เกิดขึ้นรอบตาคู่โต แก้มกลมนั้นแดงจัดพอๆ
กับจมูกโด่งที่ซึมเหงื่ออยู่จนเต็ม เวลาแบบนี้โฮซอกมีเสน่ห์อย่างที่แทฮยองไม่เคยนึกถึง
พอใบหน้าหล่อๆของอีกคนโน้มเข้ามาหาโฮซอกก็เอียงหน้าหลบไป
ถึงอย่างนั้นริมฝีปากอิ่มที่ซิบเลือดก็ไม่ได้พ้นจากแรงประทับจากริมฝีปากอุ่นอีกคู่ไปได้
จากรสจูบหวานๆที่มอบให้แทฮยองทิ้งท้ายสัมผัสด้วยการกวาดเลียตามกลีบปากนุ่มที่ชุ่มเลือดของโฮซอกเบาๆ
ก่อนขยับย้ายไปกดจูบหนักๆที่ยังต้นคอขาวอีกรอบ
“เจ็บก็อย่าขยับแรง
เข้าใจไหม”
“ทำต่อได้ยัง...อึดอัดนะโว้ย!”
เสียงกระซิบเบาๆ
ที่ส่งไอร้อนสัมผัสผิวเนื้ออยู่มันทำโฮซอกขนลุกฮือขึ้นมา
แล้วมันก็ดันไปปลุกความรู้สึกเป็นชายของเขาให้พลอยตื่นตัวไปด้วย
เลยพาลไปลงที่คนเบื้องล่างที่มาทำเป็ฯขัดจังหวะแต่ยังสอดตัวเองอยู่กับเขาไม่ไปไหน แทฮยองเองก็เหมือนจะยิ้มล้อออกมา
เมื่อเห็นแล้วว่าโฮซอกรู้สึกตื่นตัวเพราะโดนตัวเองสัมผัสเบาๆ แค่นี้
“อย่ามาบอกให้กูหยุดแล้วกัน”
หลังรอยยิ้มกริ่มแทฮยองก็ลงมือสานต่อบทรักเรียบง่ายตามประสามือใหม่ให้โฮซอกอีกครั้ง
ท่ามกลางผืนกระเบื้องเย็นเยียบโดยที่อีกคนก็ไม่ได้บ่นอะไร เรียกว่าไม่มีเวลาบ่นจะถูกมากกว่า
เพราะนอกจากเสียงครางหวานที่ดังก้องทั่วห้องที่ดังขึ้นเรื่อยๆแล้วโฮซอกก็แทบไม่ได้พูดอะไรอีก
แล้วก็เป็นอย่างนี้อยู่หลายสิบนาทีกว่าแทฮยองจะยอมพาคนห้าวออกมาจากห้องน้ำ
เพราะบนกระเบื้องเปียกๆลื่นๆมันอาจจะอันตรายไปสักหน่อยสำหรับกิจกรรมอย่างว่า
แล้วบางท่วงท่าก็ไม่เหมาะอย่างมากที่จะสานต่อในนั้น อีกอย่างบนพื้นแข็งๆมันก็ไม่ดีต่อหลังของเขาแล้วก็เข่าของโฮซอกเอาเสียมากๆ
เจ้าของบ้านเลยภูมิใจจะพาอีกคนมานำเสนอลีลาใหม่ๆที่เตียงนุ่มๆดีกว่า
บอกตามตรงจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านสมรภูมิมาพอประมาณอย่างแทฮยอง
สำหรับครั้งแรกเพื่อนเขาถือว่าทำได้ดีทีเดียว
ตอบลบใครไม่เขิน กูเขิน>////<🌚💗